โครงการ “คนละครึ่ง”

สวัสดีครับทุกคน นอกจากจะมีโครงการ “ช้อปดีมีคืน“ ให้ผู้ที่เสียภาษีได้ใช้สิทธิซื้อของแล้วนำมาลดหย่อนได้นั่น ยังมีคนอีกบางกลุ่มที่ไม่ ไม่ได้เสียภาษีก็อาจจะไม่ได้ใช้สิทธิโครงการ ช้อปดีมีคืน แต่อย่าเพิ่งน้อยใจไปเพราะยังมีอีกหนึ่งโครงการดีๆ ไม่แพ้กันนั่นก็คือ โครงการ “คนละครึ่ง” โดยวัตถุประสงค์ของโครงการนี้ก็คือเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ บรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน และช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ร้านค้ารายย่อย เป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศในองค์รวม รายละเอียดการใช้สิทธิ สามารถใช้สิทธิได้ระหว่าง 23 ต.ค. – 31 ธ.ค. 63 รัฐช่วยจ่าย 50% ผู้ได้รับสิทธิจ่ายเอง 50% โดยใช้สิทธิผ่านแอปฯ เป๋าตัง จำกัดสิทธิไม่เกิน 150 บาท/วัน โดยที่ยอดรวมการใช้สิทธิ “คนละครึ่ง” ไม่เกิน 3,000 บาท ตลอดโครงการ ไม่หักสิทธิ หากใช้ไม่หมดในแต่ละวัน โดยระบบจะคืนสิทธิที่ไม่ได้ใช้เข้ายอดรวมของผู้ได้รับสิทธิ และจะคำนวณสิทธิใหม่ในเวลา 6.00 น. ของทุกวัน ใช้ได้เวลา 06.00 – 23.00 น. ไม่สามารถใช้สิทธิ คนละครึ่ง นอกเวลาดังกล่าวได้ ตัดสิทธิ หากไม่ใช้สิทธิภายใน […]

โครงการ “ช้อปดีมีคืน”

โครงการ “ช้อปดีมีคืน” ปี 2563 สวัสดีครับทุกคน ในช่วงปลายปีแบบนี้ หลายคนที่กำลังรอมาตรการช่วยเหลือจากรัฐบาลที่ให้ใช้สิทธิการช้อปปิ้งเพื่อเอาไปลดหย่อนภาษีอยู่ ตอนนี้รัฐบาลได้ออกโครงการ “ช้อปดีมีคืน” มาแล้ว และยังมีโครงการ “คนละครึ่ง” ด้วย โครงการนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคมถึง 31 ธันวาคม 2563 และสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีในช่วงต้นปี 2564 (ประมาณเดือนมีนาคม ปี 2564) เมื่อเราไปช้อปปิ้ง สามารถเอามาใช้ลดหย่อนภาษีได้แบบไม่ต้องลงทะเบียนใดๆ เลย และต้องขอใบเสร็จเป็นชื่อเราด้วยนะครับ โดยจะใช้ลดหย่อนได้สูงสุด 30,000 บาท แต่ไม่ใช่ว่าช้อปปิ้งทุกอย่างจะเอามาลดหย่อนได้เพราะเค้ามีจำกัดอยู่ โดยสินค้าที่ไม่สามารถลดหย่อนได้ เช่น เหล้า เบียร์ บุหรี่ ยาสูบ ค่าน้ำมัน/ก๊าซที่ใช้เติมยานพาหนะ ซื้อรถยนต์/มอเตอร์ไซค์ หนังสือพิมพ์และนิตยสาร ค่าที่พัก/โรงแรม ค่าบริการจัดนำเที่ยว ก่อนที่จะไปใช้สิทธิอย่าลืมเช็คอัตราภาษีของตัวเองก่อนนะครับ ว่าอัตราทางภาษีของเราอยู่ที่ฐานภาษีเท่าไหร่ เพราะถ้าฐานภาษีเราอยู่ในช่วงที่ไม่ต้องเสียภาษี ช้อปปิ้งไปแล้วอาจจะเอาไปใช้สิทธิไม่ได้ เช่น – เงินได้สุทธิต่อปี 0-150,000 บาท ได้รับการยกเว้นภาษี แม้ว่าจะไปใช้สิทธิก็เอามาลดหย่อนภาษีไม่ได้ครับ – […]

ความลับของ….มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก

ถ้าถามทุกคนที่เล่นเฟสบุ๊คคงไม่มีใครที่ไม่รู้จักคนๆ นี้เพราะเค้าคือเจ้าของโซเชียลเน็ตเวิร์คที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างเฟสบุ๊ค และโซเชียลเน็ตเวิร์คอื่นๆ อีกมากมาย เช่น Instagram whatsapp เค้าคนนั้นก็คือ มาร์ก ซักคอร์เบิร์ก วันนี้ผมจะพามารู้จักกับมาร์ก ซักคอร์เบิร์ก และ facebook ว่ามีที่มาที่ไปยังไงถึงได้ยิ่งใหญ่มาจนถึงทุกวันนี้ โดยผมได้อ่านและสรุปมาจากหนังสือ คนจะรวยช่วยไม่ได้ ครับ มาร์ก ซักคอร์เบิร์ก มีพ่อเป็นหมอฟัน มีแม่เป็นเป็นนักจิตวิทยา นับถือศานายิว มีพื้นฐานครอบครัวที่ดี เค้าจึงได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวตั้งแต่ยังเด็กๆ มาร์ก เคยได้รับรางวัลทางคณิตศาตร์ วิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ ฟิสิกส์และสามารถเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์และเกมส์คอมพิวเตอร์ได้ตั้งแต่ยังเรียนมัธยม สมัยเรียนมหาวิทยาลัย มาร์กมักจะโดดเรียน ไม่ทำการบ้าน และไปหมกหมุ่นอยู่กับการออกแบบเว็บไซต์และเขียนโปรแกรมซึ่งเป็นสิ่งที่เค้าชอบ เพื่อนเขาหลายคนนินทาว่าเขาเหมือนหุ่นยนต์ และไม่ค่อยมีเพื่อน เฟสบุ๊คเกิดขึ้นจากที่มาร์กเห็นว่าในมหาวิทยาลัยยังไม่มีเว็บไซต์ที่รวมรายชื่อ รูป และข้อมูลนักศึกษา จึงได้แฮ็กของข้อมูลของมหาวิทยาลัยแล้วนำาสร้างเว็บไซต์ชื่อว่า Freshmash.com ให้คนเข้าไปดูว่ามีรูปของคนที่ตัวเองรู้จักไหมและอยากจะให้คะแนนเท่าไหร่เหมือนกับการเปิดโหวตลงคะแนน หลังจากที่เปิดเว็บไซต์ได้ไม่นานก็มีคนเข้ามาดูจำนวนมากและมีการบอกต่อแบบปากต่อปาก มาร์กจึงเปิดให้คนอื่นสามารถใช้บริการได้โดยให้สร้างบัญชีและแก้ไขข้อมูลได้ตามใจชอบ โดยแก้ไขให้สร้างเพจที่มี 1 เพจต่อ 1 คนและให้คนอื่นสามารถแสดงความคิดเห็นได้ ซึ่งน่าสนใจมากกว่าการที่ให้เจ้าของเพจเขียนคนเดียว มาร์กได้เงินโฆษณาก้อนแรกจากการติดแถบโฆษณา และยังได้รับความนิยมจากมหาวิทยาลัยอื่นๆ นอก ฮาร์วาดด้วย เช่น […]

8 แบบประกันน่าซื้อและช่วยลดหย่อนภาษีจากเมืองไทยประกันชีวิต

ช่วงปลายปีแบบนี้เชื่อว่าหลายคนเริ่มคำนวณรายได้ที่ได้มาทั้งปีกันแล้วเพื่อที่จะได้วางแผนและเตรียมตัวลดหย่อนภาษีกัน วันนี้ขอมาอัพเดทตัวช่วยที่จะนำไปลดหย่อนภาษีกับ 8 แบบประกันน่าซื้อและช่วยลดหย่อนภาษีจากเมืองไทยประกันชีวิตครับ ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เหมาะกับการออมเงินและลดหย่อนภาษีโดยจะลดหย่อนได้สูงสุด 100,000 บาท 1.เมืองไทย แฮปปี้ รีเทิร์น 99/7 แผนนี้เน้นลดหย่อนภาษีแบบคุ้มครองไปนานๆ คุ้มครองจนถึงอายุ 99 โดยจะลดหย่อนได้ 7 ปี ตามปีที่จ่ายเบี้ย และมีเงินคืนทุกๆปี 1.5% เหมาะกับคนที่ต้องการลดหย่อนภาษีและรับเงินคืนไปเรื่อยๆ ถ้าชอบแผนจ่ายสั้นและมีเงินคืนขอแนะนำแผนนี้ครับ แต่ถ้าครบ 7 ปีอาจจะต้องไปหาแผนใหม่เพื่อมาลดหย่อนภาษีอีก ซึ่งตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าจะมีแผนแบบไหนมาอีกบ้าง รายละเอียดแผน https://www.mtl-insure.com/insurance/happy-return/ 2.เมืองไทยซุปเปอร์เซฟเวอร์ 25/16 แผนนี้เน้นออมเพื่อลดหย่อนภาษีจริงจังเพราะทุกคนต้องทำงานไปอีกนานจนเกษียณและแน่นอนว่ารายได้เราต้องเพิ่มขึ้นและเสียภาษีต่อเนื่องอยู่แล้ว การถือแผนออมทรัพย์ระยะยาวเพื่อลดหย่อนภาษีจะมีประโยชน์กว่าเพราะถ้าเลือกแผนที่จ่ายเบี้ย 5-10 ปี พอจ่ายเบี้ยครบก็ต้องนั่งวุ่นวายมาหาแผนใหม่ตอนนั้นอาจจะไม่มีแผนออมทรัพย์ที่ได้ผลตอบแทนดีๆ เหมือนตอนนี้แล้วก็ได้ รายละเอียดแผน https://www.mtl-insure.com/saving/super-saver-25_16/ 3.เมืองไทย รีไทร์เมนท์ พลัส 60 ถ้าทุกคนมองว่าจะต้องทำงานไปจนเกษียณและต้องลดหย่อนภาษีหรืออยากเก็บเงิน ไม่ต้องเสียเวลาไปหาแผนใหม่ในอนาคต เลือกแผนที่มีตอนนี้แล้วจ่ายเบี้ยยาวๆ เลย ต้องแผน รีไทร์เมนท์ พลัส 60 นี้เลย เริ่มออมหรือจ่ายเบี้ยตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงเกษียณ เบี้ยที่จ่ายแต่ละปีก็เอาไปลดหย่อนภาษีได้ตลอดจนถึงอายุ 60 […]

ทำไมซื้อประกันสุขภาพต้องเลือกตัวหลักแบบคุ้มครอง 99 ปี!!

ถ้าพูดถึงเรื่องประกันสุขภาพลูกค้าใหม่ที่กำลังศึกษาประกันสุขภาพอยู่ หรือลูกค้าเก่าอีกหลายคนก็อาจจะไม่รู้ว่าทำไมต้องมีประกันชีวิตหลักก่อน หรือถ้าอยากซื้อแบบไม่มีประกันหลักไม่ได้หรอ และทำไมต้องซื้อตัวหลักที่ถือยาวถึงอายุ 99 ปีด้วย ตายก่อนจะได้ใช่แน่ๆ วันนี้มีคำตอบมาบอกครับ สิ่งที่ลูกค้าสงสัยคือทำไมต้องมีสัญญาหลักก่อนซื้อสุขภาพ ก็เพราะว่าเป็นข้อกำหนดของบริษัทประกันชีวิตทุกบริษัท ที่ต้องมีประกันชีวิตที่เรียกว่าสัญญาหลักและซื้อสัญญาสุขภาพเรียกว่าสัญญาเพิ่มเติมหรือสัญญาพ่วง ถ้าลูกค้าซื้อประกันสุขภาพกับบริษัทประกันภัยก็ไม่ต้องมีสัญญาหลักก็ได้ ตัวสัญญาหลักจะเลือกแบบที่เป็นออมทรัพย์ จ่ายเบี้ยสั้นๆ คุ้มครองช่วงเวลาหนึ่งเช่น 20 ปีและมีเงินก้อน หรือเลือกแบบคุ้มครองยาวๆ ไปจนถึงอายุ 99 ปีก็ได้ ทั้งสองแบบนี้มีข้อแตกต่างกัน และลูกค้ามักถามว่าทำไมต้องเลือกแผนคุ้มครองยาวถึงอายุ 99 ปี มาดูรายละเอียดกันครับ สัญญาสุขภาพเป็นสัญญาเพิ่มเติมที่พ่วงกับตัวหลัก ถ้าตัวหลักจบสัญญาสุขภาพก็ต้องจบลงด้วย ถ้าเลือกตัวหลักเป็นแผนออมทรัพย์ที่คุ้มครองแค่ 20 ปี สมมติลูกค้าอายุ 30 ปี ตอนอายุ 51 ก็จะซื้อสุขภาพต่อไม่ได้เพราะสัญญาหลักจบแล้ว หากตอนนั้นลูกค้ามีโรคประจำตัวหรือโรคที่รักษาต่อเนื่องก็อาจจะทำประกันใหม่ไม่ได้ หรือทำได้แล้วโดนยกเว้นโรคที่เป็นมาก่อนทำประกัน ซึ่งจะหาบริษัทประกันที่รับทำได้ยาก ถ้าตอนอายุ 51 ปี ลูกค้าไม่โรคประจำตัวก็โชคดี แต่ก็จะต้องมาเริ่มทำสัญญาหลักใหม่เพื่อซื้อสุขภาพเพิ่ม ซึ่งสัญญาหลักก็จะคำนวณตามอายุ แน่นนอนว่าอายุ 51 ปีเบี้ยยอมแพงกว่าทำตอนอายุ 30 ปีแน่นอน จาก 4 ข้อที่บอกไปข้างบนนี้ทำให้ตัวแทนมักเสนอแผนสุขภาพคู่กับประกันชีวิตหลักที่คุ้มครองถึงอายุ 99 […]

1 18 19 20 21 22 50