4 ข้อแนะนำเลือกตัวแทนยังไงให้โดนใจไม่โดนโกง

ถ้าพูดถึง 10-15 ปีก่อน สมัยที่การหาข้อมูลเกี่ยวกับประกันชีวิตหรือตัวแทนประกันคงเป็นเรื่องยาก จะค้นหาอะไรต้องไปถามคนรู้จักหรือถ้ามีคนแนะนำเค้าว่ายังไงก็ว่าตาม แต่ตอนนี้ปี 2020 โทรศัพท์มือถือทุกเครื่องใช้อินเตอร์เน็ตได้ ความเร็วขั้นต่ำตอนนี้ก็น่าจะ 3G เราอยากรู้ข้อมูลประกันแบบไหน มีแผนอะไรไม่ต้องเสียเวลาไปถามเพื่อน หรือไปถามคนรู้จักว่ามีตัวแทนแนะนำไหม หากแยากรู้แบบประกันต่างๆ ไม่ต้องรอข้อมูลแบบประกันจากตัวแทนอย่างเดียวแค่หยิบมือถือขึ้นมาค้นหาใน Google ก็เจอข้อมูลแล้ว หากจะทำประกันสักเล่ม เรื่องที่ลูกค้าอยากรู้มากที่สุดคงเป็นข้อมูลตัวแทนและแบบประกัน เพราะประกันเป็นสัญญาระยะยาวที่ต้องมีตัวแทนดูแลและให้คำปรึกษา แต่จะรู้ได้ยังไงว่าตัวแทนคนนี้จะมั่นใจได้จริงๆ สมัยก่อนไม่มีอินเตอร์เน็ตเราอาจจะเลือกตัวแทนจากคนที่แนะนำ คนรู้จัก ญาติพี่น้อง เป็นอันดับแรกๆ ตัวแทนจากอินเตอร์เน็ตหรือออนไลน์แทบไม่มีความน่าเชื่อถือ แต่ตอนนี้อินเตอร์เน็ตเข้าถึงหมดแล้วการจะหาข้อมูลไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ลูกค้าเปลี่ยนพฤติกรรมไปให้ความสนใจจากตัวแทนที่เราสามารถหาข้อมูลได้มากขึ้น มาดูว่าลูกค้าส่วนใหญ่เลือกตัวแทนจากอะไรบ้าง 1. ตัวแทนที่มีช่องทางการติดต่อหลากหลาย ช่วยให้เราหาข้อมูลตัวแทนได้ง่ายขึ้น ดูว่าตัวแทนที่การทำงาน การให้คำปรึกษาเป็นแบบไหน ตรงกับความต้องการของเราหรือไม่ เช่น Facebook ของตัวแทน, Fan page, Line หรือเว็บไซต์ 2. บริษัทมีช่องทางการชำระเงินหลากหลาย การจ่ายเบี้ยประกันเป็นปัญหาที่เจอมาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันก็ นั่นก็คือตัวแทนรับเงินจากลูกค้าไปแล้วไม่นำส่งบริษัท ถ้าเปลี่ยนจากการจ่ายเบี้ยด้วยเงินสดเป็นการโอนเงินเข้าบัญชีบริษัทหรือบัตรเครดิตก็จะทำให้มั่นใจขึ้นว่าเงินได้ถึงมือบริษัทประกันจริงๆ (อย่าลืมเช็คตอนโอนด้วยน้า) 3. เลือกตัวแทนจากคนรู้จักแนะนำ เป็นช่องทางที่คนส่วนใหญ่มั่นใจที่สุดเพราะ อย่างน้อยก็มีคนที่แนะนำที่เค้าเคยปรึกษาและศึกษาข้อมูลมาก่อน ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นก็ยังที่เพื่อนที่หัวอกเดียวกัน 4. ตัวแทนที่ตอบคำถามได้ฉะฉาน […]

7 ข้อต้องรู้กับประกันชีวิตควบการลงทุน

  ผมว่าคน Gen Y รุ่นใหม่ช่วงอายุ 25-35 ปี น่าจะเป็นกลุ่มที่เติบโตเร็วทั้งในด้านรายได้ ด้านความรู้ ด้านความคิดไว มากกว่าคนยุคก่อนๆ อาจะเป็นเพราะเราสามารถเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ได้รวดเร็ว มีอินเตอร์เน็ตและเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยในการหาความรู้ได้หลากหลายขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการลงทุนที่ไม่ใช่เรื่องยากเหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะมีทั้งหนังสือ มีคลิปสอนการลงทุน คนรุ่นใหม่สามารถลงไปลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ หรือการลงทุนต่างๆ ได้ด้วยตัวเองแล้ว เช่นเดียวกับประกันชีวิตแบบเดิมๆ ที่มีข้อจำกัดหลายอย่าง ไม่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ เช่นในเรื่องความคุ้มครองชีวิต คนรุ่นใหม่อาจจะมองว่ายังไม่มีครอบครัวจะทำประกันชีวิตไปทำไมยังไม่รู้ว่าจะให้เงินก้อนนี้กับใคร หรือบางคนมองว่าทำประกันไปแล้วไม่ได้ใช้ และผลตอบประกันรูปแบบเดิมได้ผลตอบแทนน้อย อาจจะมองเรื่องการลงทุนมากกว่า จึงทำให้คนรุ่นใหม่ขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องประกันชีวิตและไม่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ จึงเป็นที่มาของประกันชีวิตอีกรูปแบบหนึ่งที่ผสมผสานระหว่างความคุ้มครองชีวิตกับการลงทุนไปในตัวที่ตอบโจทย์กับคนช่วงอายุ 25-35 ปีมากขึ้น นั้นก็คือ “ประกันชีวิตควบการลงทุนหรือเรียกอีกอย่างว่า Uint-Linked” นั้นเเอง ประกันชีวิตควบการลงทุน (Uint-Linked) คือ ประกันที่ได้ความคุ้มครองชีวิตเมื่อเราจากไปและยังได้ลงทุนในกองทุนที่เราสนใจทำให้มีโอกาสได้ผลตอบแทนมากขึ้น โดยจริงๆแล้วคอนเซ็ปต์ก็ยังคงเป็นประกันชีวิต ไม่ใช่การลงทุนทั้งหมด เพียงแต่ว่าเราได้เลือกลงทุนจากเบี้ยที่หักค่าใช้จ่ายต่างๆ ไปแล้ว ประกันชีวิตควบคู่การลงทุน (Uint-Linked) จะแบ่งเบี้ยประกันออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนประกันชีวิตและส่วนของการลงทุน เมื่อจ่ายเบี้ยมาบริษัทจะหักส่วนที่เป็นประกันชีวิตและค่าธรรมเนียมต่างๆ ก่อน เหลือเท่าไหร่ก็จะเอาไปลงทุนตามกองทุนที่เราต้องการหรือถ้าใครไม่มีความรู้ เมืองไทยประกันชีวิตก็มีพอร์ตการลงทุนแนะนำตามระดับความเสี่ยงของแต่ละคนโดยได้เลือกกองทุนเด่นที่มีการบริหารงานที่ดีมาจัดเป็นพอร์ตแนะนำให้ ส่วนของความคุ้มครองชีวิตสามารถเลือกทุนประกันได้สูงกว่าประกันแบบเดิมๆ […]

5 ปัญหาเรื่องค่ารักษาพยาบาล

หมดปัญหาเรื่องวงเงินค่ารักษาไม่พอจ่าย เพราะประกันสุขภาพรูปแบบใหม่จ่ายตามจริงทั้งค่าห้องและค่ารักพยาบาลด้วยเบี้ยหลักพันต่อเดือนแต่คุ้มครองหลักล้านต่อครั้ง วันนี้เรื่องสุขภาพอาจจะไม่เรื่องเล็กอีกต่อไปเพราะใครๆ ก็ใส่ใจกับการดูแลสุขภาพ ทั้งการกินที่มีประโยชน์ การออกกำลังกาย การนอนให้พอ การพักผ่อนจากการทำงานรวมถึงการวางแผนค่ารักษาพยาบาลยามเจ็บป่วย ผมได้รวบรวมจากปัญหาที่เกิดขึ้นจริงที่ได้ดูแลลูกค้ากว่า 100 กรรมธรรม์ จากการได้ไปดูแลดูค้าที่ของตัวเองตอนที่เข้าโรงพยาบาลและจากที่มีทุกคนเข้ามาปรึกษาในเพจเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพ จะเห็นว่าปัญหาด้านค่ารักษาพยาบาลในการเจ็บป่วยและค่าห้องไม่พอเป็นปัญหาอันดับต้นๆ ที่ลูกค้าเจอกัน มาดูกันว่าทุกคนเคยเจอปัญหาแบบนี้ไหมครับ ทำประกันไว้นานแล้วค่าห้องสมัยก่อนไม่พอกับตอนนี้ สมัยก่อนค่าห้อง ค่าผ่าตัดที่โรงพยาบาลไม่ได้แพงเหมือนตอนนี้ แผนประกันธรรมดาค่าห้องหลักพันต้นๆ ค่ารักษาพบาบาล 50,000 บาทก็เพียงพอแล้ว แต่พอเวลาผ่านไป 5 ปี 10 ปีแผนประกันสุขภาพที่เคยมีอยู่อาจจะไม่พอแล้วสำหรับการรักษาในปัจจุบัน เพราะค่าเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นทำค่าห้อง ค่าผ่าตัด ค่ารักษาพยาบาลปรับเพิ่มขึ้นด้วย ผลที่ตามมาคือ เวลาทุกคนจำเป็นต้องเข้าโรงพยาบาลก็จะต้องจ่ายค่ารักษาส่วนเกินจากที่มีอยู่เอง อยากนอนห้องเดี่ยว แต่ค่าห้องไม่พอต้องออกเพิ่มเอง ปัญหาที่สองคือ แผนประกันสุขภาาพแบบเดิมจำกัดค่าห้องหลักพันต้นๆ เหมือนกัน แต่ปัจุบันค่าห้องของโรงพยาบาลเอกชนราคาเริ่มต้นก็ครึ่งหมื่นแล้ว ครั้นจะไปนอนห้องรวมเพื่อลดค่าห้องก็ดูจะไม่ไหว แค่เจ็บป่วยก็ลำบากพอแล้ว เข้าโรงพยาบาลก็อยากจะได้นอนสบายๆ มีความเป็นส่วนตัว เวลาเพื่อน หรือญาติมากเยี่ยมก็จะได้ไม่รบกวนคนอื่นใช่ไหมครับ ถ้าจะอัพเกรดไปนอนห้องเดี่ยวก็จะมีส่วนเกินที่จะต้องจ่ายเพิ่มเอง ค่าห้องปรับขึ้นทุกปี แต่ความคุ้มครองที่มียังคงที่ สองปีก่อนเพิ่งซื้อค่าห้องเพิ่มไป พอมาปีนี้ค่าห้องโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นอีกแล้วซื้อเพิ่มกันไม่ทันเลย จะเพิ่มอะไรกันเร็วขนาดนั้น จะให้มาเพิ่มทุก 3-4 ปีก็คงจะไม่ไหวใช่ไหมครับเสียดายตังค์ แต่ถ้าไม่เพิ่มเวลาเข้าโรงพยาบาลก็ต้องมาจ่ายส่วนต่างเองอีกไม่ยืดหยุ่นเอาเสียเลย นอนโรงพยาบาลแต่ละครั้งกังวลว่าจะมีส่วนเกิน […]

คุณมีประกันสุขภาพรุ่นไหนกับเมืองไทยประกันชีวิต

วันนี้อยากชวนทุกคนที่มีประกันสุขภาพกับเมืองไทยประกันชีวิตมาทำเช็คลิสกันสะหน่อยว่าตอนนี้ประกันกันสุขภาพที่มีอยู่ใช้รุ่นไหนกันบ้างครับ รุ่น1+  H&S + Extracare 80% Smart Health + Extracare 80% เรียกได้ว่าเป็นรุ่นแรกๆ ของประกันสุขภาพและทุกบริษัทก็ต้องมีแผนนี้ แผน H&S หรือประกันสุขภาพแบบแยกค่าใช้จ่าย แผนนี้จะแยกค่าใช้จ่ายในการรักษาออกเป็นข้อๆ เช่น ค่าห้อง/ค่าอาหาร/ค่าบริการ ค่ารักษาพยาบาล ค่าหมอ ค่าผ่าตัด เวลาเราเข้ารักษาตัว โรงพบาลก็จะเบิกค่ารักษาเป็นข้อๆ ตามสิทธิ์ที่เรามี มีเท่าไหร่บริษัทจ่ายเท่านั้น เกินก็จ้องออกเอง พิเศษกว่านั้นเมืองไทยประกันชีวิตมีตัวช่วยที่เรียกว่า Extracare ซึ่งจะได้ค่าห้องเพิ่มเข้ามา และค่ารักษาในข้อไหนเกิน Extracare จะช่วยจ่ายให้อีก 80% เช่น มีวงเงินค่ารักษา 20,000 บาทแต่โรงพยาบาลเรียกเก็บ 40,000 บาท มีส่วนต่าง 20,000 บาท Extracare ช่วยจ่ายให้อีก 16,000 บาท แผน Smart Health เหมาจ่ายหายห่วงได้ค่ารักษาเป็นก้อน ไม่ต้องมาคิดเล็กคิดน้อยเหมือนแผน H&S ได้ค่ารักษา 500,000 […]

ป่วยเป็นมะเร็งวันนี้ มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่

หลายคนยังคิดว่ามะเร็งเหล่านี้เป็นเรื่องไกลตัวและคิดว่าคงไม่เกิดกับเรา แต่ลืมไปว่ามะเร็งต่างๆ ล้วนเกิดจากการใช้ชีวิตของเราทั้งนั้น และคนรอบข้างของคนที่ป่วยเป็นมะเร็งมักจะเคยพูดคุยกับผู้ป่วยบ้าง สิ่งที่ได้ยินคือ “ก็ไม่คิดว่าจะเป็นเหมือนกัน” ใครๆก็ไม่ได้คิด ว่าตัวเองจะโชคร้ายขนาดนั้นจึงไม่ได้เตรียมตัว ไม่ได้วางแผนให้กับตัวเอง จะมีสักกี่คนที่ได้เตรียมตัวรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น วันนี้หลายคนยังโชคดีที่มีทางเลือกและมีโอกาสที่จะวางแผนชีวิตให้กับตัวเอง แม้เราไม่สามารถคาดเดาอนาคตว่าจะเจ็บป่วยเมื่อไร แต่ก็สามารถลดความเสี่ยงนี้ได้ด้วยการวางแผนตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บเงินเพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาล หรือการซื้อความคุ้มครองสุขภาพที่ครอบคลุมโรคมะเร็ง หรือโรคทั่วๆ ไป ซึ่งโรคมะเร็งนั้นขึ้นชื่อว่ามีค่ารักษาที่แพงอยู่แล้วด้วยอาการเจ็บป่วยที่รุนแรง มีความซับซ้อนในการรักษา มีเครื่องมือพิเศษเฉพาะทาง จึงมีค่าใช้จ่ายแพง ส่วนราคาก็แตกต่างกันตามอาการและความซับซ้อน เห็นค่ารักษาแต่ละโรคแล้วหลายคนคงกุมขมับกันเลยทีเดียว เพราะการรักษาแต่ละครั้ง แต่ละโรคก็สูญเสียเงินก้อนที่เราเก็บมาทั้งชีวิต ดังนั้นการวางแผนลดความเสี่ยงจึงเป็นเรื่องจำเป็นและมีความสำคัญอย่างมาก เมืองไทยประกันชีวิตจึงออกแบบ ความคุ้มครองสุขภาพ อีลิท เฮลท์ ที่คุ้มครองโรคมะเร็ง โรคทั่วไป และโรคระบาดตามฤดูกาล ให้คุณคลายกังวลค่ารักษาพยาบาลยามเจ็บป่วย และ สัญญาเพิ่มเติม ซีไอ เพอร์เฟค แคร์ ที่ให้ความคุ้มครองเป็นเงินก้อนเมื่อตรวจเจอโรคร้ายแรง 36 โรค เช่น โรคมะเร็ง โรคกล้ามเนื้อหัวใจ เนื้องอกในสมอง ชนิดไม่ใช่มะเร็ง เป็นต้น มะเร็ง… โรคร้ายที่ใครๆ ก็เป็นได้และใกล้ตัวกว่าที่คิด อย่ารอจนสายเกินไป เพราะประกันโรคมะเร็งเป็นแล้วทำไม่ได้ ตรวจเจอโรคร้าย จ่ายตั้งแต่ระยะเริ่มต้น […]

1 6 7 8 9 10 13