แผน 5 ปีที่จะเปลี่ยนชีวิตคนไปในทางทีดีขึ้นฉบับ “ลีกาซิง”

1. ลีกาซิงเป็นคนจีน มีพ่อเป็นครูใหญ่ ตอนเด็กๆ อายุประมาณ 12 ปี เกิดสงครามทหารญี่ปุ่นบุกจีน ลีกาซิงและครอบครัวจึงอพยพไปฮ่องกง 2. ลีกาซิงกับครอบครัวอยู่ฮ่องกงได้ประมาณ 2 ปีพ่อก็เขาก็เสียชีวิตด้วยโรควัณโรค เขาเสียใจมากและสัญญากับพ่อว่าจะทำให้ครอบครัวของตัวเองมีชีวิตที่ดี 3. หลังจากพอเสียชีวิต ลีกาซิงจึงกลายเป็นเสาหลักของครอบครัว จึงต้องออกจากโรงเรียนเพื่อไปรับจ้างทำงาน เขาทำงานอย่างหนักวันละ 16-20 ชั่วโมงเพื่อหารายได้จนได้รับโบนัสมากกว่าเพื่อน และยังขยันตื่นเช้ามาอ่านหนังสือทุกวัน ตอนเย็นก็ไปเรียนพิเศษเพิ่ม โดยเขาจะซื้อหนังสือมือสองมาอ่าน พออ่านจบก็เอาไปขายเพื่อซื้อเล่มใหม่ 4.เขาได้เลื่อนตำแหน่งจากเด็กรับจ้างเป็นผู้จัดการโรงงานตอนอายุไม่ถึง 20 ปี และมีความคิดที่จะเปิดโรงงานเป็นของตัวเอง 5.เขาเก็บเงินได้ประมาณ 7,000 ดอลลาร์แล้วไปเปิดโรงงานพลาสติกเป็นของตัวเอง เพราะเขามองการณ์ไกลว่า ฮ่องกงหลังจากเพิ่งสิ้นสุดสงครามครั้งที่ื2 ธุระกิจพลาสติกมีความสำคัญเพราะพลาสติกสามารถนำไปแปรรูปได้หลากหลาย 6.เขาขยายธุรกิจโดยการผลิตดอกไม้พลาสติกเพื่อส่งออกไปต่างประเทศจนติดอันดับบริษัทที่ส่งออกดอกไม้พลาสติกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย 7. หลังจากที่ธุระพลาสติกโตแล้วยังขยายไปธุระกิจอื่นๆเช่น อสังหาริมทรัพย์ โรงแรม ท่าเรือ การสื่อสาร ปัจจุบันธุรกิจทั้งหมดได้ส่งต่อให้ลูกชายทั้งสองคน 8.ตอนเด็กเขายังได้สอนลูกชายให้รู้จักกับความลำบาก ขึ้นรถเมย์ รถไฟฟ้า ไปขายหนังสือพิมพ์และพาไปดูความลำบากขแงเด็กคนอื่นๆ ลี กาซิงได้แบ่งกันความรู้ทางด้านการเงินของเขาที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆได้ทำตาม เรียกว่า “แผน 5 ปีที่จะเปลี่ยนชีวิตคนไปในทางทีดีขึ้น” แผน 5 […]

กฏทอง 10 ข้อของวอร์เรน บัฟเฟตต์

ถ้าพูดถึงคนที่เป็นต้นแบบเรื่องการบริการเงิน การลงทุน หุ้น หลายคนคงต้องรู้จักเค้าคนนี้แน่นอน นั่นก็คือ วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีที่โตมาจากการลงทุนในหุ้นเงินร้อยดอลลาร์จนกลายเป็น หมื่นล้านดอลลาร์ เชื่อว่าหลายคนคนสนใจในประวัติของคนนี้ว่าเค้ามีวิธีการลงทุนยังไงและมีการวางแผนการเงินยังไงให้รวยได้ขนาดนี้ มาดูกฏทอง 10 ข้อของที่วอร์เรน บัฟเฟต ได้ใช้กัน 1. ต้องทำงานให้หนัก เพราะส่วนใหญ่การทำงานหนักจะนำผลกำไรมาให้แต่ในขณะที่พูดมากแต่ไม่ทำจะนำความยากจนมาให้แทน 2. อย่าขี้เกียจ เขายกตัวอย่างที่น่าสนใจมากว่า “ขนาดกุ้งมังกรตัวโต ๆ ถ้ามัวแต่นอนหลับยังสามารถถูกกระแสน้ำพัดลอยไปได้” หมายความว่าถ้าคุณไม่ทำอะไรเลย มัวแต่รอคอยความหวัง คุณจะต้องตกอยู่ในวังวนวิกฤตการณ์ทางการเงินนี้ต่อไปอย่างแน่นอน 3. รายรับจากหลายแหล่ง ข้อนี้เป็นเคล็ดลับของมหาเศรษฐีหลายคน ไม่ใช่เฉพาะวอร์เรน เพราะการพึ่งรายได้จากแหล่งเดียวทำให้ต้องตกอยู่ในความเสี่ยงของภาวะที่ไม่แน่นอน เขาแนะนำให้ทำการลงทุนที่ฉลาดเพื่อสร้างรายได้เพิ่ม เช่น ถ้าคุณเป็นมนุษย์เงินเดือน คุณควรมีรายได้ส่วนอื่นจากการลงทุนในรูปแบบอื่นๆ ที่สามารถสร้างรายรับเข้ามาในแต่ละเดือนได้ด้วย 4. ควบคุมรายจ่าย เมื่อไหร่ที่คุณเริ่มจ่ายเงินซื้อสิ่งที่คุณไม่มีความต้องการจริงๆ คุณก็กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงที่อาจต้องขายสิ่งที่คุณต้องการมากที่สุดแทน ดังนั้นคิดและตั้งสติก่อนที่จะจ่ายเงินซื้ออะไรในชีวิตเสมอ 5.ตั้งใจออม อย่ารอเก็บออมเงินที่เหลือหลังจากที่ได้ใช้จ่ายจนพอใจ แต่เราต้องกันเงินส่วนหนึ่งของรายได้มาเพื่อเก็บสะสมก่อน แล้วจึงนำส่วนที่เหลือไปใช้จ่าย 6.งดกู้ยืม คนที่กู้หนี้ยืมจากคนอื่นมักจะตกเป็นทาสของคนที่คุณไปกู้ยืม ดังนั้นต้องยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงพยายามมีชีวิตอยู่ตามอัตภาพเท่าที่เราหามาได้ อย่าไปสร้างหนี้สร้างสินโดยไม่จำเป็น 7.จัดระบบบัญชี เขาใช้คำคมมาเปรียบเทียบว่า“ไม่มีประโยชน์ที่จะถือร่มกันฝน ตราบใดที่รองเท้าที่คุณสวมใส่นั้นยังมีรูอยู่เพราะมันทำให้เปียกเหมือนกัน” นั่นคือต้องอย่าทำให้มีจุดรั่วไหลของบัญชี 8.หมั่นตรวจสอบ […]

7 ข้อต้องรู้กับประกันชีวิตควบการลงทุน

  ผมว่าคน Gen Y รุ่นใหม่ช่วงอายุ 25-35 ปี น่าจะเป็นกลุ่มที่เติบโตเร็วทั้งในด้านรายได้ ด้านความรู้ ด้านความคิดไว มากกว่าคนยุคก่อนๆ อาจะเป็นเพราะเราสามารถเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ได้รวดเร็ว มีอินเตอร์เน็ตและเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยในการหาความรู้ได้หลากหลายขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการลงทุนที่ไม่ใช่เรื่องยากเหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะมีทั้งหนังสือ มีคลิปสอนการลงทุน คนรุ่นใหม่สามารถลงไปลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ หรือการลงทุนต่างๆ ได้ด้วยตัวเองแล้ว เช่นเดียวกับประกันชีวิตแบบเดิมๆ ที่มีข้อจำกัดหลายอย่าง ไม่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ เช่นในเรื่องความคุ้มครองชีวิต คนรุ่นใหม่อาจจะมองว่ายังไม่มีครอบครัวจะทำประกันชีวิตไปทำไมยังไม่รู้ว่าจะให้เงินก้อนนี้กับใคร หรือบางคนมองว่าทำประกันไปแล้วไม่ได้ใช้ และผลตอบประกันรูปแบบเดิมได้ผลตอบแทนน้อย อาจจะมองเรื่องการลงทุนมากกว่า จึงทำให้คนรุ่นใหม่ขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องประกันชีวิตและไม่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ จึงเป็นที่มาของประกันชีวิตอีกรูปแบบหนึ่งที่ผสมผสานระหว่างความคุ้มครองชีวิตกับการลงทุนไปในตัวที่ตอบโจทย์กับคนช่วงอายุ 25-35 ปีมากขึ้น นั้นก็คือ “ประกันชีวิตควบการลงทุนหรือเรียกอีกอย่างว่า Uint-Linked” นั้นเเอง ประกันชีวิตควบการลงทุน (Uint-Linked) คือ ประกันที่ได้ความคุ้มครองชีวิตเมื่อเราจากไปและยังได้ลงทุนในกองทุนที่เราสนใจทำให้มีโอกาสได้ผลตอบแทนมากขึ้น โดยจริงๆแล้วคอนเซ็ปต์ก็ยังคงเป็นประกันชีวิต ไม่ใช่การลงทุนทั้งหมด เพียงแต่ว่าเราได้เลือกลงทุนจากเบี้ยที่หักค่าใช้จ่ายต่างๆ ไปแล้ว ประกันชีวิตควบคู่การลงทุน (Uint-Linked) จะแบ่งเบี้ยประกันออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนประกันชีวิตและส่วนของการลงทุน เมื่อจ่ายเบี้ยมาบริษัทจะหักส่วนที่เป็นประกันชีวิตและค่าธรรมเนียมต่างๆ ก่อน เหลือเท่าไหร่ก็จะเอาไปลงทุนตามกองทุนที่เราต้องการหรือถ้าใครไม่มีความรู้ เมืองไทยประกันชีวิตก็มีพอร์ตการลงทุนแนะนำตามระดับความเสี่ยงของแต่ละคนโดยได้เลือกกองทุนเด่นที่มีการบริหารงานที่ดีมาจัดเป็นพอร์ตแนะนำให้ ส่วนของความคุ้มครองชีวิตสามารถเลือกทุนประกันได้สูงกว่าประกันแบบเดิมๆ […]

ใครบ้างที่ต้องวางแผนการเงิน

เรื่องเงินพูดแล้วบางคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องปวดหัว เรื่องเข้าใจยาก เรื่องของผู้ใหญ่ วัยรุ่นยังไม่จำเป็นต้องไปเข้าใจมัน พอถึงเวลาก็เข้าใจเอง …แต่พอมาดูว่าในชีวิตประจำวันแล้วใครบ้างที่เกี่ยวกับเงินก็จะเห็นว่าทุกวัยตั้งแต่เกิดจนแก่ต้องใช้เงินทั้งนั้น ไม่ใช่แค่เรื่องของ วัยใดวัยหนึ่ง มาดูกันว่าแต่ละวัยเกี่ยวข้องกับเงินยังไงบ้าง วัยเด็ก เป็นวัยที่พ่อแม่ ควรสอนให้รู้จักกับการออมเงิน รู้จักการใช้เงิน เป็นวัยที่เราต้องสอนให้รู้จักบ่มเพาะนิสัยให้รู้จักคุณค่าของเงินเพื่อที่จะสามารถบริหารจัดการเงินได้เมื่อโตขึ้นไป วัยนี้ควรสอนให้รู้จักกับการหยอดกระปุกออมสินจากเงินที่ได้ในแต่ละโอกาสหรือเงินที่เหลือจากค่าขนมที่ไปโรงเรียน สอนให้รู้จักกับการฝากเงินที่ธนาคารให้เห็นว่าถ้าเราออมเงินจะได้ผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ย วัยทำงาน เป็นวัยที่เริ่มหารายได้ด้วยตัวเอง และสนุกกับการใช้เงินจากที่หาได้ อาจจะใช้เพลินจนลืมเก็บเงินได้ ที่สำคัญวัยทำงานเป็นวัยที่มีโอกาสร้างหนี้เยอะที่สุดทั้ง ทั้งบ้าน รถ บัตรเครดิต หากขาดการวางแผนการเงินที่ดี ใช้ชีวิตตามกระแสสังคมมากเกินไป อาจจะทำให้ลำบากในวันข้างหน้า รู้จักกับการเก็บเงินสำรองฉุกเฉิน การวางแผนภาษีจากรายได้ รู้จักการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทน การวางแผนเกษียณ การบริหารความเสี่ยงจากประกันชีวิตและสุขภาพ การออมเงินหรือตั้งเป้าหมายทางการเงินเช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถ สร้างครอบครัว วัยสร้างครอบครัว วัยนี้จะรุ่งหรือจะเละก็เป็นผลมาจากวัยทำงานเลยครับเพราะยังถือว่ายังทำงานกันอยู่แต่อาจจะมีภาระเพิ่มเรื่องการสร้างครอบครัว ถ้ามีการวางแผนที่ดีตั้งแต่วัยทำงานก็จะทำให้เหนื่อยน้อยกว่าการไม่ได้วางแผนอะไรมาเลย วัยทำงานที่ว่าหนักแล้วการสร้างครอบครัวจะยิ่งหนักเพราะต้องมีคนที่เราต้องดูและเพิ่ม วางแผนประกันชีวิตให้กับตัวเองและครอบครัวเพราะเมื่อคนใดคนหนึ่งเป็นอะไรไปอีกคนจะได้ไม่ลำบาก วางแผนประกันสุขภาพ เพราะการเจ็บป่วยเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถเดาได้ ถ้าหากป่วยหนักแล้วไม่มีประกันสุขภาพอาจจะทำให้เงินเก็บของครอบครัวหมดได้ วางแผนการบริหารรายรับ จ่าย ของครอบครัวเพื่อสร้างอนาคตให้กับลูก วัยเกษียณ หลายคนคิดว่าวัยเกษียณยังทำเป็นต้องรู้จักวางแผนการเงินอีกหรอ ตอบเลยว่า..จำเป็น แต่ไม่ใช่เหมือนวัยอื่นๆ แม้ว่าวัยเกษียณจะไม่ต้องปวดหัวเรื่องการหาเงินแล้วแต่ก็ยังต้องใช้เงินอยู่ จริงๆ ควรเตรียมพร้อมมาตั้งแต่ วัยทำงานและวัยสร้างครอบครัวแล้ว […]

3+1 เทคนิคใช้บัตรบัตรเครดิตยังไงไม่ให้เป็นหนี้

ช่างต้นเดือนแบบนี้ทุกคนกำลังหมุนเงิน มาจ่ายค่าบัตรเครดิตที่เพิ่งตัดรอบบิลไปกันอยู่ไหมครับ ถ้าทุกคนไม่มีปัญหากับการจ่ายเงิน เรียกเก็บเท่าไหร่ก็จ่ายเต็ม แสดงว่าสามารถบริหารการเงินได้ดีเยี่ยมเลยละครับ แต่ถ้าใครมีปัญหากับจ่ายค่าบัตร ดูรายละเอียดการใช้แล้วมืด 8 ด้านว่าใช้ไปกับอะไรบ้าง เงินไม่พอจ่ายเลย จะทำยังไงดีนะ เราคือเพื่อนกันครับ เพราะผมก็เคยเป็นมาก่อน วันนี้อยากจะมาเล่าเทคนิคที่ตัวเองใช้เพื่อบริหารจัดการหนี้บัตรเครดิตให้อยู่มัด จนตอนนี้จ่ายเต็มตลอดๆ 1. เลือกใช้บัตรเดียวเพราะเราจะเห็นว่าในรอบบิลนั้นๆ ใชัเงินไปเท่าไหร่แล้ว ถ้ากระจายหลายบัตรยอดแต่ละยอดก็อยู่คนละแอพหมด ทำให้เราเราต้องคอยรวมยอดอยู่บ่อยๆ เพื่อดูว่าเดือนนี้ใช้ไปเท่าไหร่แล้ว เกินงบที่ตั้งไว้หรือยัง หรืออาจจะเผลอคิดไปว่า เฮ้ยเพิ่งใช้ไปนิดเดียวเองรูดต่อละกัน ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้รวมบัตรอื่นๆ แต่ผมมีอีกบัตรสำหรับไว้เติมเที่ยว รฟฟ. เพราะบัตรนั้นจะได้ส่วนลดตั้ง 11% รวมๆ ต่อรอบบิลก็ได้ส่วนละ 200-300 บาทเลย 2. มีบัญชีสำหรับจ่ายค่าบัตรเครดิต บอกเลยว่ามีแบบนี้แล้วชีวิตดีมาก ถ้าได้รูดซื้อของ หรือบัตรตัดค่าฟิตเนส ค่าน้ำค่าไฟ ผมจะโอนเงินไปไว้บัญชีนี้ทันที เพราะจะได้รู้ว่ายอดเงินคงเหลือจริงๆ ที่จะใช้ได้เหลือเท่าไหร่ จะได้ไม่เผลอใช้เดียวสิ้นเดือนไม่มีพอจ่ายค่าบัตรอีก พอถึงรอบการจ่ายก็สามารถโอนจ่ายจากบัญชีนี้ได้เลย 3. เลือกบัตรที่คิดว่ามีโปรโมชั่นเหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด แน่นอนว่าแต่ละบัตรก็ก็โปรโมชั่นเด่นๆของบัตร เช่น สำหรับเติมน้ำมัน สำหรับช้อปปิ้ง สำหรับร้านอาหาร ถ้าเราอยากจะได้โปรโมชั่นทุกอย่างก็คงจะปวดหัวที่ต้องมาดูว่าจะไปกินข้าว จะไปเที่ยวต้องใช้บัตรไหนดีนะ มันก็จะวกไปที่ข้อ 1 […]

1 25 26 27 28 29 58