1. เลือกใช้บัตรเดียวเพราะเราจะเห็นว่าในรอบบิลนั้นๆ

ใชัเงินไปเท่าไหร่แล้ว ถ้ากระจายหลายบัตรยอดแต่ละยอดก็อยู่คนละแอพหมด ทำให้เราเราต้องคอยรวมยอดอยู่บ่อยๆ เพื่อดูว่าเดือนนี้ใช้ไปเท่าไหร่แล้ว เกินงบที่ตั้งไว้หรือยัง หรืออาจจะเผลอคิดไปว่า เฮ้ยเพิ่งใช้ไปนิดเดียวเองรูดต่อละกัน ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้รวมบัตรอื่นๆ แต่ผมมีอีกบัตรสำหรับไว้เติมเที่ยว รฟฟ. เพราะบัตรนั้นจะได้ส่วนลดตั้ง 11% รวมๆ ต่อรอบบิลก็ได้ส่วนละ 200-300 บาทเลย

2. มีบัญชีสำหรับจ่ายค่าบัตรเครดิต

บอกเลยว่ามีแบบนี้แล้วชีวิตดีมาก ถ้าได้รูดซื้อของ หรือบัตรตัดค่าฟิตเนส ค่าน้ำค่าไฟ ผมจะโอนเงินไปไว้บัญชีนี้ทันที เพราะจะได้รู้ว่ายอดเงินคงเหลือจริงๆ ที่จะใช้ได้เหลือเท่าไหร่ จะได้ไม่เผลอใช้เดียวสิ้นเดือนไม่มีพอจ่ายค่าบัตรอีก พอถึงรอบการจ่ายก็สามารถโอนจ่ายจากบัญชีนี้ได้เลย

3. เลือกบัตรที่คิดว่ามีโปรโมชั่นเหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด

แน่นอนว่าแต่ละบัตรก็ก็โปรโมชั่นเด่นๆของบัตร เช่น สำหรับเติมน้ำมัน สำหรับช้อปปิ้ง สำหรับร้านอาหาร ถ้าเราอยากจะได้โปรโมชั่นทุกอย่างก็คงจะปวดหัวที่ต้องมาดูว่าจะไปกินข้าว จะไปเที่ยวต้องใช้บัตรไหนดีนะ มันก็จะวกไปที่ข้อ 1 คือไม่รู้ใช้ไปเท่าไหร่แล้ว ถ้าทุกคนเป็นคนที่ยังบริการเงินไม่เก่งแนะนำว่าเลือกบัตรใบเดียวที่มีโปรโมชั่นที่เราใช้บ่อยที่สุด

4. รูดแล้วจ่ายเลย

ถ้าทุกคนเป็นคนที่มีการวางแผนการเงินอยู่แล้ว ไม่อยากเอาเงินในอนาคตมาใช้ ของที่ซื้อก็เพราะมีเงินจ่ายอยู่แล้วก็อย่าไปรอให้ถึงวันตัดรอบ รูดแล้วก็โอนจ่ายเลยจะได้ไม่ต้องสะสมยอดเป็นดินพอกหางหมู

ตัวอย่างของผมเมื่อก่อนผมเคยบัตรของค่ายนึงใช้มาตั้งแต่เรียนจบก็ ไม่เคยเปลี่ยนเลย ทุกกิจกรรมไม่ว่าจะค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าประกัน ฟิตเนส กินข้าว จนได้แต้มไปเป็นส่วนลดร้านอาหารอยู่บ่อยๆ

พอมาครั้งนึงเห็นว่า เฮ้ย บางกิจกรรมใช้แล้วทำไมไม่ได้แต้มว่ะ ใช้ไปเยอะแล้วด้วย เลยแอบนอย เลยเปลี่ยนไปหาเจ้าอื่นสะเลย ทุกคนละครับ มีใครใช้บัตรเครดิตเจ้าไหนอยู่บ้าง มีโปรโมชั่นเด็ดๆ อะไรอยู่บ้างเอ่ย

===============

ติดตามช่องทางอื่นของเรา

Facebook :  Money and Insurance
Line : https://lin.ee/cAyHd1Q
Website : www.mtl-insure.com
IG : www.instragram.com/mtl_insure
Group : www.facebook.com/groups/190206858958713