วันนี้ผมพามารู้จักกับกองทุนรวม K-CHANGE-A(A) ที่หลายคนจับตาดูอยู่เพราะกองทุนนี้ลงทุนใน Tesla ซึ่งทำให้เจ้าของอย่าง Elon Musk กลายเป็นบุคคลที่รวยเป็นอันดับ 1 ของโลกไปแล้ว
ก่อนที่จะไปเริ่มลงทุน มาทำความรู้จักก่อนว่ากองทุนรวมคืออะไร…กองทุนรวมคือ การระดมเงินทุนของคนจำนวนมาก ที่สนใจลงทุนหรือซื้อกองทุน ไปลงทุนต่อให้อีกที เพราะถ้าเราจะซื้อหุ้นโดยตรงอาจจะมีเงินไม่มากพอและไม่มีเวลาติดตามข่าวสาร แต่ถ้าซื้อกองทุนรวมจะสามารถซื้อได้หลายกอง และแต่ละกองก็ไปลงทุนให้หลายบริษัท หลายอุตสาหกรรม ที่สำคัญมีผู้จัดการกองทุนดูแลให้ด้วย สามารถรถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกองทุนรวมได้ที่ลิ้งนี้ครับ (กองทุนรวมคืออะไร)
กองทุนรวม K-CHANGE-A (A) ก็ถือว่าเป็นกองทุนรวมประเภทหนึ่ง หมวดกองทุนรวมตราสารทุนต่างประเทศ (เพราะลงทุนในต่างประเทศ) มีความเสี่ยงในระดับสูง เพราะตราสารทุนคือการเป็นเจ้าของทำให้เสี่ยงสูงกว่าตราสารหนี้ที่เป็นเจ้าหนี้ และยังมีความเสี่ยงเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนเงินอีกด้วย ฉะนั้นก่อนจะลงทุนอย่าลืมทำแบบประเมินความเสียงว่าตัวเราเองรับความเสียงได้ระดับไหน จะได้ไม่ลงทุนเกินความเสี่ยงที่รับได้ครับ
K-CHANGE-A(A) ลงทุนในอะไรบ้าง
กองทุนรวมนี้เป็นกองทุนประเภท Fund of Fund และ/หรือ Feeder Fund ก็คือจะนำเงินที่เราลงทุน ไปลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอีกที แล้วกองทุนรวมนั้นก็เอาไปลงทุนในบริษัท/อุตสาหกรรม ต่างๆ ตามนโยบาย ที่ระบุไว้ กองทุนรวม K-CHANGE-A(A) ส่วนใหญ่ที่เรารู้จักก็คือ Tesla ของ Elon Mak, Moderna Inc บริษัทผลิตยา (ผลิตวัคซีน COVID-19 ด้วย) หรือถ้าแบ่งตามประเภทอุตสาหกรรมการลงทุนก็ได้ลงทุนในกลุ่ม Health Care, IT, Industrials มูลค่าลงทุนเพียง 500 บาทต่อครั้ง
เพื่อความเข้าใจมากขึ้นขออธิบายให้เห็นภาพดังนี้ครับ
- เรานำเงินไปซื้อกองทุนรวม K-CHANGE-A(A)
- กองทุนก็นำเงินไปลงทุน หน่วยลงทุนของกองทุน Baillie Gifford Positive Change Fund – Class B accumulation (GBP)
- Baillie Gifford Positive Change Fund – Class B accumulation (GBP) ก็นำเงินไปลงทุนในหลักทรัพย์หรือตราสารของบริษัทต่าง เช่น Tesla, Moderna Inc
ถ้าเราดูในหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญจะเห็นว่ารายละเอียดหรือสัดส่วนของกองทุน K-CHANGE-A(A) เท่านั้น ส่วนถ้าอยากรู้ว่า (GBP) ลงทุนในบริษัทไหน เท่าไหร่ ความเสี่ยงยังไงจะต้องไปหาอ่านอีกที ซึ่งผมว่า รู้แค่เบื้องต้นก็น่าจะพอเพราะเรามีผู้จัดการกองทุนค่อยดูแลกองทุนที่เราลงทุนให้แล้วครับ
รายละเอีดเพิ่มเติมของกองทุน K-CHANGE-A(A)
ลงทุนแบบ DCA เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนได้มากกว่า
สำหรับการซื้อของทุนรวมแต่ละกองของผมจะใช้เทคนิคที่ชื่อว่า Dollar Cost Averaging เรียกสั้นๆ ว่า DCA หรือแปลว่าการลงทุนแบบเฉลี่ยทุกๆเดือน โดยนำมาประยุกต์ ให้เข้ากับตัวเอง นั้นก็คือ จะพยายามซื้อกองทุนทุกๆ เดือนมีเงินเดือนเข้าก่อนนำไปใช้หรือมีรายได้เพิ่มมา ไม่ได้ซื้อก้อนเดียวหรือครั้งเดียวเพราะไม่รู้ว่าช่วงเวลานั้นมูลค่าหน่วยลงทุนจะถูกหรือแพง ช่วยลดเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่า โดยกองทุนนี้ผมเริ่มซื้อหลังจากที่ซื้อตัวอื่นๆ ไปเยอะแล้วอยากกระจายกองทุนบ้าง
- ซื้อครั้งที่ 1 วันที่ 04/08/2563 จำนวน 2,000 บาท มูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) 16.9744 บาท ได้จำนวนหน่วยทั้งหมด 117.8245 หน่วย
- ซื้อครั้งที่ 2 วันที่ 07/08/2563 จำนวน 1,000 บาท มูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) 16.8922 บาท ได้จำนวนหน่วยทั้งหมด 59.1989 หน่วย
- ซื้อครั้งที่ 3 วันที่ 14/08/2563 จำนวน 1,000 บาท มูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) 16.9406 บาท ได้จำนวนหน่วยทั้งหมด 59.0298 หน่วย
- ซื้อครั้งที่ 4 วันที่ 08/09/2563 จำนวน 3,000 บาท มูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) 17.0624 บาท ได้จำนวนหน่วยทั้งหมด 175.8252 หน่วย
- ซื้อครั้งที่ 5 วันที่ 08/10/2563 จำนวน 3,000 บาท มูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) 18.3796 บาท ได้จำนวนหน่วยทั้งหมด 163.2244 หน่วย
- ซื้อครั้งที่ 6 วันที่ 09/12/2563 จำนวน 2,000 บาท มูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) 20.6187 บาท ได้จำนวนหน่วยทั้งหมด 96.9939 หน่วย
- ซื้อครั้งที่ 7 วันที่ 12/01/2564 จำนวน 2,000 บาท มูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) 21.8233 บาท ได้จำนวนหน่วยทั้งหมด 91.6451 หน่วย
เพื่อความเข้าใจเรื่องการลงทุนแบบ DCA มากขึ้นสามารถอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ลิ้งนี้ครับ Dollar Cost Averaging (DCA)
ผลตอบแทนที่ได้จากกองทุนนี้
จากที่ได้อธิบายแนวคิดการลงทุนแบบ Dollar Cost Averaging (DCA) ไปด้านบนสรุปเป็นผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนดังนี้ครับ
จำนวนเงินที่ซื้อกองทุนไปทั้งหมด 14,000 บาท
หน่วยลงทุนทั้งหมดที่ได้ประมาณ 763.7470 หน่วย
ราคาหน่วยลงทุนเฉลี่ย 18.3307 บาทต่อหน่วย
ณ วันที่เขียนบทความนี้ (19/01/2564) มูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) เท่ากับ 21.9166 บาทต่อหน่วย
เราจะมีเงินทั้งหมด 16,738.74 บาท
หาอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนได้จาก
= (มูลค่าเงินในพอร์ต ณ วันที่คำนวณ – เงินลงทุน)/เงินลงทุน
= (16,738.74-14,000)/14,000
= +19.56%
เริ่มต้นลงทุนกันเลย
สำหรับการลงทุนในกองทุนรวม K-CHANGE-A (A) หรือกองทุนรวมอื่นๆ ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทยนั้น ง่ายมากๆ ครับ แค่มีบัญชีธนาคารและแอพ K PLUS ก็สามารถซื้อกองทุนได้จากบนโทรศัพท์มือถือได้เลย มีขั้นตอนง่ายๆ ตามนี้ครับ
- เข้าแอพ K PLUS
- เลือก เมนู “Bankking (ธุรกรรม)” แล้วเลือก “Investment (ลงทุน)”
- เลือก “Purchase Redeem Switch (ซื้อ ขาย สับเปลี่ยน)”
- เมนู Puchase (ซื้อ) พิมพ์ชื่อกองทุน “K-CHANGE-A(A)” ตรงช่องค้นหา ในหน้าแอพจะแสดงข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับกองทุนนี้ สามารถกดเข้าไปอ่านหนังสือชีชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญได้ครับ ถ้ายังไม่เคยเปิดบัญชีให้ทำการเปิดบัญชีกองทุนก่อน ผมขอข้ามขั่้นตอนนี้ไปนะครับ
- เลือกปุ่ม “Purchase (ซื้อ)” จะแสดงหน้าจอเงื่อนไขการลงทุน “ยอมรับ(Accept)” และจะแจ้งเตือนความเสี่ยงเกี่ยวกับอัตราแลกเลกเปลี่ยน อ่านรายละเอียดและกด “ยอมรับ (Accept)” อีกครั้งครับ
- หน้าต่อมาจะแสดงข้อมูลการตัดบัญชีที่ต้องการและระบุจำนวนเงินที่ต้องการซื้อ กรอกข้อมูลและ กด “Next (ต่อไป)” ได้เลย
- สรุปการสั่งซื้อกด “Cofirm (ยืนยัน)” จากนั้นก็รอกองทุนจัดสรรประมาณ 1-3 ทำการ หากจัดสรรเสร็จแล้วจะมี SMS แจ้งเตือน สามารถเข้าไปดูได้ในแอพครับ ทีนี่เราก็จะมีเงินลงทุนในกองทุนรวมที่เอาไปลงทุนในกองทุนที่ลงทุนใน Tesla แล้ว ดูซับซ้อนดีครับ 5555
คำเตือนสำหรับมือใหม่
- กองทุนรวมไม่ใช่เงินฝากไม่สามารถถอนออกมาใช้ได้ทันที การถอนมีระยะเวลาตามนโยบายของกองทุนซึ่งจะมีบอกไว้ใน หนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ (Fund Fact Sheet)
- การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
- การลงทุนในหน่วยลงทุนมิใช่การฝากเงิน และมีความเสี่ยงของการลงทุน ผู้ลงทุนอาจได้รับเงินลงทุนคืนมากกว่าหรือ น้อยกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกก็ได้ ดังนั้นอย่าลืมทำแบบประเมินความเสี่ยงก่อนเลือกกองทุนที่จะลงทุน
- กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน
- ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต
===============
ติดตามช่องทางอื่นของเรา
Facebook : Money and Insurance
Line : https://lin.ee/cAyHd1Q
Website : www.mtl-insure.com
IG : www.instragram.com/mtl_insure
Group : www.facebook.com/groups/190206858958713